ผมจำได้ว่าการรณรงค์เรื่องสภาวะโลกร้อน(global warming) แม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(climate change) บ่อยมากนะครับ และเรื่องนี้น่าจะมีวาระซ่อนเร้น เพราะเกี่ยวข้องกับ ธุรกิจ
ไฮโดรคาร์บอนที่ทำกำไรมหาศาล ผ่านมาตรการต่างๆ ที่กลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลัง รัฐบาลสหรัฐพยายามผลักดันเกี่ยวกับ ในเรื่องข้อตกลงระหว่างประเทศ เกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา http://www.theepochtimes.com/n2/opinion/the-hidden-agenda-behind-global-warming-deception-49670.html
และแน่นอนครับ เมื่อพูดถึงเรื่องโลกร้อน เราต้องรู้จักชายคนหนึ่ง คือ นายอัลกอร์ ที่ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ภายหลังการรณรงค์เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือสภาวะโลกร้อน
ความจริงๆค่อยๆปรากฎ ออกมาแล้วครับว่า สิ่งที่เขาเคยพูดไว้เมื่อหลายปีก่อน ว่าน้ำแข็งขั้วโลกกำลังจะละลาย และอาจจะละลายหมดภายในระยะเวลาอันไกล้นั้น จนกระทั่งปัจจุบันกลายเป็นตรงกันข้าม รายงานล่าสุดปริมาณน้ำแข็งขั้วโลก กลับเพิ่มขึ้นมากว่า 43% เป็นข่าวดีของหมีขั้วโลก แต่เป็นข่าวร้ายของนาย อัลกอร์ และในขณะเดียวกัน ก็เป็นข่าวร้ายสำหรับ บรรดานักวิทยาศาสตร์ ที่อยู่เบื้องหลังการรณรงค์ดังกล่าว เพราะมีการบิดเบือนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ในห้วงของการรณรงค์โลกร้อน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา http://www.eutimes.net/2014/09/myth-of-arctic-meltdown-stunning-satellite-images-show-summer-ice-cap-is-thicker/
คำถามต่อมาก็คือ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สาเหตุที่แท้จริงของการละลาย ของน้ำแข็งขั้วโลก สภาพภูมิอากาศที่รุนแรง พายุพัดถล่มในพื้นที่ต่างๆ เกี่ยวข้องกับการรณรงค์เรื่องนี้หรือไม่? และการรณรงค์เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกี่ยวข้องกับ Geoengineering และ Chemtrail หรือไม่? http://www.globalresearch.ca/atmospheric-geoengineering-weather-manipulation-contrails-and-chemtrails/20369
และในขณะที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัว และต่อต้านเรื่องนี้ แต่บ้านเรามีคนรู้เรื่องนี้น้อยมาก นักเล่าข่าวชื่อดัง ก็ยังแจกเสื้อรณรงค์โลกร้อนเป็นว่าเล่น กลายเป็นเครื่องมือโดยไม่รู้ตัว โครงการของนาซา ที่เข้ามาขอใช้สนามบิน อู่ตะเภา สมัยรัฐบาลที่แล้ว ที่อ้างว่าวิจัยเมฆ จริงๆก็หนีไม่พ้นเรื่องนี้ครับ http://the-tap.blogspot.com/2012/06/bloodless-us-invasion-of-thailand.html
อย่าลืมนะครับว่า นโยบายเรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(climate change) เป็นอีกนโยบายหนึ่งที่ รัฐบาลสหรัฐพยายามผลักดันมาตลอด เพราะเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสหรัฐ โดยตรงนั่นเอง พูดง่ายๆก็คือ มีกลุ่มคนที่ได้ประโยชน์และฟันกำไรมหาศาล ภายใต้การรณรงค์เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หนึ่งในนั้นก็คือ จอร์จ โซรอส ผู้ให้การสนับสนุน บารัค โอบามา ในการรณรงค์หาเสียง ในห้วงสมัครชิงตำแหน่ง ปธน.สหรัฐตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา http://greencorruption.blogspot.com/2013/03/left-wing-billionaire-george-soros.html
เพราะฉะนั้นเรื่อง นอกจากสงครามต่อต้านการก่อการร้ายแล้ว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาล ผ่านการรณรงค์เรื่องดังกล่าว แม้กระทั่งนาย อัลกอร์ ที่รณรงค์เรื่องนี้เอง มูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่ผลกระทบที่ตามมาก็คือ ความน่าเชื่อถือของข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์ ที่ช่วงหลังมีการบิดเบือน เพื่อวัตถุประสงค์ทางผลประโยชน์ แม้กระทั่งการเมือง และมีกระแสข่าว่า บารัค โอบามา ซึ่งเวลานี้ยังไม่แน่อยู่ข้างใด ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ หรือกลุ่มทุนที่สนับสนุนเขา ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ และกำลังจะลงนาม ข้อตกลงว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กับสหประชาชาติที่เรียกว่า Agenda 21 โดยไม่ผ่านสภาครองเกรสในปี 2015 นี้ http://www.dcclothesline.com/2014/08/27/obama-set-sign-agenda-21un-climate-change-agreement-without-congress/
ภัยพิบัติที่แฝงมากับ เรื่องของการรณรงค์เรื่อง โลกร้อนหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นอีกโครงการหนึ่งที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง พายุที่ถล่มฟิลิปปินส์เมื่อปีที่ผ่านมา การันตีเรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะในขณะที่ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่สื่อตะวันตกและสหรัฐก็โยนความผิดไปให้ "สภาวะโลกร้อน"ทันที
ซี่งจริงๆสภาวะโลกร้อน ก็กำลังจะถูกเปลี่ยนให้เป็น"แพะ" เพราะพูดหรือแก้ตัวไม่ได้นั่นเอง
http://www.globalresearch.ca/climate-change-the-philippines-haiyan-typhoon-is-not-the-result-of-global-warming/5358195
@Chalee Na Roied
ที่มา http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2738653/Stunning-satellite-images-summer-ice-cap-thicker-covers-1-7million-square-kilometres-MORE-2-years-ago-despite-Al-Gore-s-prediction-ICE-FREE-now.html
0 Response to "งานวิจัยล่าสุดพบปริมาณน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ กลับเพิ่มขึ้นมากถึง 43%"
แสดงความคิดเห็น