เมื่อเยลโลว์สโตนสำแดงเดช

ช่วงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2557 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.8 เขย่า “เยลโลว์สโตน” แรงสุดในรอบ 34 ปี ปลุกกระแสผวา “มหาภูเขาไฟใต้พิภพ” ระเบิด หวั่นกลัวทำให้สิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ด้วยการเปลี่ยนภูมิอากาศทั่วโลก

***เมื่อเยลโลว์สโตนสำแดงเดช

จะเกิดการปะทุระเบิดที่ปล่อยหินพัมมิซและเถ้าภูเขาไฟมากกว่า 1,000 ลูกบาศก์กิโลเมตรในคราวเดียว ที่มีเถ้าถ่านควันถูกพ่นสูง ปกคลุมท้องฟ้าจนมืดมิด จนเกิดเหตุการณ์ Nuclear Winter (เช่นเดียวกับ สงครามนิวเคลียร์) 

คือ ควันสีดำจากเถ้าจะลอยสูงไปจนถึงชั้นบรรยากาศระดับสตราโตสเฟียร์ ค่อยๆแผ่ขยายปกคลุมไปทั่วโลก ซึ่งทำให้แสงสว่างทะลุลงมาไม่ได้ สภาพอากาศจะเริ่มลดลง จนไปถึงระดับติดลบ หนาวเหน็บแสนสาหัส พืชพรรณจะสังเคราะห์แสงไม่ได้ สัตว์จะทยอยล้มตาย คนจะขาดอาหาร ฝนที่ตกลงมา น้ำจะเป็นพิษ ใช้ดื่มกินไม่ได้ จากนั้นมนุษย์จะทยอยล้มตายลงเรื่อยๆ ไม่ต้องพูดถึงความรุนแรง การปล้นฆ่า แย่งชิง และความลำบากต่างๆ และกว่าธรรมชาติจะเยียวยาตัวเองได้ ใช้เวลามากกว่า 10 ปี

-------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลจากศูนย์สังเกตการณ์อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน, มหาวิทยาลัยยูทาห์ และสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า พื้นที่บริเวณนี้จะเกิดแผ่นดินไหวราวๆ 1,000-3,000 ครั้งในแต่ละปี แรงสั่นสะเทือนเมื่อวานนี้ (30) เกิดขึ้นใกล้กับศูนย์กลางการยกตัวของแผ่นดิน (uplift) ซึ่งนักธรณีวิทยาได้เฝ้าติดตามมานานหลายเดือน นอกจากนี้ยังพบว่ากิจกรรมแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่แผ่นดินยกตัวครั้งล่าสุดเมื่อช่วงปี 1996-2003

นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบเมื่อไม่กี่ปีมานี้ว่า มหาภูเขาไฟเก่าแก่ หรือ “แคลดีรา” ที่นอนสงบนิ่งอยู่ใต้ผืนดินเยลโลว์สโตนมีความกว้างประมาณ 48 กิโลเมตร หรือใหญ่กว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 2.5 เท่า USGS ชี้ว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนในระยะนี้มีความเชื่อมโยงกับการยกตัวของแผ่นดิน ซึ่งเกิดจากการที่หินละลายใต้พิภพเคลื่อนตัวขึ้นสู่พื้นผิวโลก

การระเบิดครั้งมโหฬารสามครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในเขตอุทยานเยลโลว์สโตน โดยครั้งล่าสุดซึ่งเกิดเมื่อ 640,000 ปีก่อน