งานวิจัยนาซ่า > การสลับขั้วของสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์หรือปฏฺิกริยาบนดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์
ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญต่อโลกและสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อาศัยอยู่ในระบบสุริยะแห่งนี้ มันเป็นเหมือนกับระบบควบคุมและเกราะป้องกันอะไรสักอย่างจากนอกระบบสุริยะที่คอยเข้ามามากมายเช่น อุกาบาต ดาวหาง หรือ ฝุ่นอวกาศที่เต็มไปด้วยเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และสิ่งมีชีวิตแปลกๆ ให้กับระบบสุริยะที่เราอาศัยอยู่ และอีกหนึ่่งพลังงานที่ว่าก็คือรังสีคอสมิกซึ่งรังสีนี้เป็นอันตรายต่อเซล์ RNA/DNA , โคโมโซม สิ่งต่างๆเหล่านี้จะเข้ามาได้ก็ต่อเมื่อเกราะป้องกันระบบสุริยะของเราอ่อนแอลง เกราะป้องกันระบบสุริยะที่เรียกว่า “heliosphere” ที่อยู่เลยดาวพูลโตไปหลายพันล้านกิโลเมตร หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ประตูเข้าสู่ระบบสุริยะ
ปกติดวงอาทิตย์จะสร้างส่งลมสุริยะออกไปเพื่อสร้างเกราะป้องกันระบบสุริยะของเราแต่ว่ามันกับอ่อนแอลง สิ่งต่างๆเลยเข้ามาง่ายๆในช่วงวัฏจักรสุริยะนี้
รูปภาพวัฏจักรสุริยะจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับปฏฺิกริยาบนดวงอาทิตย์ที่นาซาปกปิดไว้หรืออธิบายไม่หมด งานชิ้นนี้ได้วิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมมนุษย์ในช่วงที่ดวงอาทิตย์สลับขั้วทุกๆ 11ปี ของรอบวัฏจักรสุริยะ เมื่อมีการปล่อย CME ออกมาเป็นจำนวนมาก
ทุกครั้งที่ดวงอาทิตย์มีการสลับขั้วสนามแม่เหล็กเหนือใต้ ใต้เหนือ
จะมีผลทำให้พฤติกรรมของมนุษย์ก้าวร้าว หุนหัน ต่อต้าน ไม่นิ่ง พูดง่ายๆว่าปฏฺิกริยาที่ดวงอาทิตย์จะมีผลต่อความแปรปรวนทางด้านอามรณ์และความรู้สึกได้ ไม่ใช่เพียงแต่สภาพอากาศเท่านั้น
นักวิทยาศาสตรได้แยกพฤติกรรมมนุษย์ในช่วงที่ดวงอาทิตย์สลับขั้วได้มา 5 พฤติกรรม จากการสำรวจวิจัยทั่วโลกคือ
1.การที่ผู้นำมีอารมณ์ถูกกระตุ้นทำให้มีอิทธิพลเพื่อโน้มน้าวปลุกปั่นมวลชน
2.ทำให้เกิดกระทำด้วยการเน้นหนักทางความคิดความตื่นเต้นต่อมวลชน
3.การเกิดความไม่แน่นอนเมื่ออยู่ในสถานที่หนึ่งของบุคคลนั้นๆ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อจุดสำคัญทางด้านจิตใจ
4.การควบคุมคนกลุ่มๆหนึ่ง ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนไหวของมวลชน
5.การผสมผสานความแตกต่างระหว่างบุคคลในหมู่มวลชน ให้เข้าใจกันได้
โดยการเปรียบเทียบเหล่านี้จากพฤติกรรมมนุษย์ในแต่ละช่วงของยุคสมัย เมื่อ 500 ปีก่อนคริสตกาลถึงคริสต์ศักราช 1922 โดยนักวิทย์ได้ตรวจสอบประวัติศาสตร์ทั้ง 72 ประเทศในช่วงเวลาที่สังเกตเห็น ซึ่งสัญญาณความไม่สงบของมนุษย์เช่น สงครามโลกและการปฏิวัติจลาจล , การเดินทางอพยพโยกย้าย อื่นๆ บวกกับจำนวนของคนที่เกี่ยวข้อง พบว่าอย่างเต็มที่ 80% ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นไปอย่างมีนัยสำคัญทางด้านสถิติที่สุดที่เกิดขึ้นในปีนั้น ระหว่างกิจกรรมจุดดับบนดวงอาทิตย์ที่มีมากเมื่อสูงสุด เขายืนยันว่า "น่าตื่นเต้นมาก" ระยะเวลาอาจจะอธิบายได้โดยการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของพฤติกรรมมนุษย์ในระดับระบบประสาทและจิตใจจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ดวงอาทิตย์เมื่อถึงกิจกรรมจุดสูงสุดของมัน
ที่มา : http://www.thoughtpursuits.com/flip-suns-magnetic-field-shift-human-behavior-within-weeks-nasa-research/#
0 Response to "งานวิจัยนาซ่า ลับสุดยอด"
แสดงความคิดเห็น