วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พบวาฬสุขภาพแข็งแรงไม่มีรอยบาดเจ็บ เกยตื้นตายบนเกาะฮาวาย สืบเนื่องเกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กโลก


      วาฬนำร่องครีบสั้นมาเกยตื้นตายบนชายฝั่งคาไว(Kauai) ของเกาะฮาวาย นักชีววิทยาทางทะเล Terry Lilley เป็นคนแรกที่เจอวาฬตัวนี้ในวันศุกร์(25) เราแทบไม่พบอาการบาดเจ็บตามร่างกายของมันหรือมันไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไรที่บ่งชี้ได้ว่ามันตายเลย  สุขภาพก็แข็งแรงดี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก สาเหตุการตายนั้นน่าจะมาจากอย่างอื่นเขากล่าว   



คลิป

      โดยปกติแล้วการศึกษาทางกายวิภาคศาสตร์ในกระโหลกและสมองของปลาวาฬและโลมาบางชนิด จะมีผลึกแมกเนไตต์ (magnetite)  ขนาดจิ๋วฝังอยู่ ซึ่งสารนี้ใช้รับรู้แนวสนามแม่เหล็กได้ ทำให้แน่ใจได้ว่ามันต้องอาศัยแนวสนามแม่เหล็กของโลกในการนำทางเช่นเดียวกับพวกแมลง นก และแม้แต่มนุษย์เรา ซึ่งวาฬนำร่องครีบสั้นตัวนี้ที่ถูกพบเมื่อศุกร์(25)น่าจะเกิดความผิดพลาดในการเดินทางและความสับสนในการใช้ระบบสัญญาณโซนาร์ในน้ำ



      การเกยตื้นตายของปลาวาฬและโลมาหลายๆชนิด ที่ถูกพบกันบ่อยมากขึ้นในโลกช่วงนี้ สืบเนื่องมีความเกี่ยวข้องกันกับแรงของสนามแม่เหล็กโลกในปัจจุบันและการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก ที่มีนักวิทย์หลายๆคน ได้ทำการศึกษามานานแล้วพบว่า สนามแม่เหล็กโลกจากอดีตถึงปัจจุบันอ่อนกำลังลงไปกว่า 15% นับตั้งแต่ปี ค.ศ 1600 - 2010 ที่ผ่านมา และมันกำลังอ่อนตัวลงทุกๆปี ก่อนหน้านี้นักวิทย์บอกว่า สนามแม่เหล็กจะอ่อนตัวประมาณ 5% ในรอบ 100 ปี แต่ข้อมูลใหม่ไม่สอดคล้องกัน โดยตั้งแต่ปี 2004 - 2014 เป็นต้นมาตรวจสอบพบว่า ตอนนี้มีการอ่อนตัว 5% ในรอบ 10 ปี   หรือมากกว่า 10 เท่าของที่คาดไว้ ซึ่งมันเร็วขึ้นจนผิดปกติ เช่น แทนที่จะมีการกลับตัวอย่างสมบูรณ์ในทุกๆ 2,000 ปี เหมือนกับที่คาดการณ์ แต่ข้อมูลใหม่ คือ มันจะเกิดขึ้นเร็วกว่านั้น 10 เท่า ซึ่งการสำรวจข้อมูลนี้เป็นของดาวเทียม Swarm จากองค์การอวกาศยุโรป หรือ ESA



      ในส่วนเหตุการณ์นี้ยังรวมไปถึงความผิดปกติของกระแสน้ำอีกด้วย โดยกระแสน้ำทะเลในปัจจุบัน 2014 เริ่มอุ่นขึ้นหรือร้อนขึ้น ตามปกติแล้วการไหลของกระแสน้ำในมหาสมุทรมีผลกระทบต่อสภาพอากาศเช่นกัน และนั่นจึงเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดปรากฎการณ์ เอล นีโญ (EI Nino) ในปีนี้  ซึ่งทำให้สภาพอากาศบนโลกเกิดการแปรปรวนมากขึ้น รวมไปถึงเมื่อน้ำในมหาสมุทรร้อนขึ้น นั่นก็แสดงว่า ออกซิเจนในน้ำลดต่ำลงไปด้วยเช่นกัน ทำให้ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำใต้ทะเลขาดออกซิเจนในการหายใจ จนต้องขึ้นมาบนผิวน้ำหรือเกยตื้นตายเป็นจำนวนมาก





ที่มา http://www.hawaiinewsnow.com , http://www.livescience.com , http://www.projectworldawareness.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น